%MCEPASTEBIN%
ทำไมการวางแผนการลาออกจากงานจึงสำคัญ
หลายคนคิดว่าการซื้อขายหุ้นเป็นวิธีหาเงินได้อย่างรวดเร็ว ในความเป็นจริงแล้ว นี่เป็นงานที่มีความเสี่ยงสูง หากไม่ได้เตรียมตัวไว้ คุณอาจสูญเสียไม่เพียงแต่เงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสมดุลทางจิตใจอีกด้วย
ทำไมต้องวางแผน:
- เพื่อลดความเสี่ยง และความเครียดทางการเงิน
- เพื่อค่อย ๆ สั่งสมประสบการณ์ และความมั่นใจ
- เพื่อทำความเข้าใจว่าการซื้อขายหุ้นเหมาะสมกับวิถีชีวิตของคุณหรือไม่
ขั้นตอนที่ 1 ประเมินความสามารถทางการเงินของคุณ
ก่อนที่จะลาออกจากงานที่มั่นคง คุณต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง:
- ก่อนที่จะลาออกจากงานที่มั่นคง คุณต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง:
- ตัดสินใจว่าคุณยินดีลงทุนเงินมากเท่าไหร่ – เฉพาะจำนวนเงินที่คุณสามารถรับความสูญเสียได้เท่านั้น จากประสบการณ์ของนักเทรด พบว่าควรเริ่มต้นด้วยเงินทุนของตัวเอง ไม่ใช่เงินจากการกู้ยืม
- หากไม่มีแผนสำรอง ความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และจากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่าหลายคนที่ลาออกจากงานโดยไม่มีแผนสำรอง มักจะพบว่าตัวเองตกอยู่ภายใต้ความกดดัน และทำผิดพลาดอย่างรวดเร็ว
ทำไมสิ่งนี้จึงสำคัญ: หากไม่มีเงินทุนสำรองทางการเงิน ความกดดันก็จะเพิ่มมากขึ้น และข้อผิดพลาดในตลาดก็แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขั้นตอนที่ 2 เรียนรู้พื้นฐานของการซื้อขาย
ก่อนที่จะทำงานด้วยเงินจริง คุณต้องเข้าใจวิธีการทำงานของตลาด:
- เรียนรู้พื้นฐาน: ตลาดทำงานอย่างไร มีเครื่องมืออะไรบ้าง ค่าสเปรดเงินประกัน และล็อต คืออะไร
- ทดสอบแนวทาง กลยุทธ์ และวิธีการวิเคราะห์ที่แตกต่างกัน
- จดบันทึกการซื้อขาย – บันทึกทุกการซื้อขาย อารมณ์ การตัดสินใจ และผลลัพธ์ แนวทางนี้ช่วยให้คุณประเมินได้ว่ากลยุทธ์ไหนใช้ได้ผล และไม่ได้ผล นักลงทุนที่มีประสบการณ์ยังแนะนำวิธีการบัญชี และการวิเคราะห์แบบนี้ด้วย
เหตุผลที่สำคัญ: การเข้าใจตลาดจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล แทนที่จะตัดสินใจตามอารมณ์
ขั้นตอนที่ 3 สร้างกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ และทดสอบกับข้อมูลในอดีต
- กำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับการเปิด และปิดตำแหน่งงาน
- ทดสอบกลยุทธ์ของคุณด้วยข้อมูลในอดีต
- ทดสอบกลยุทธ์ของคุณกับสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ (สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ โลหะ ดัชนี และหุ้น)
เหตุผลที่สำคัญ: หากไม่มีกลยุทธ์ที่มีค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์มากกว่า 1 และตัวเลขแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของผลกำไรในอดีต ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่ 4 ฝึกฝนในบัญชีทดลองก่อน
- เปิดบัญชีทดลองกับโบรกเกอร์ และซื้อขายด้วยเงินเสมือนจริง
- ดำเนินการทดสอบกลยุทธ์ล่วงหน้าแบบเรียลไทม์
- จดบันทึกการซื้อขาย: บันทึกความสำเร็จ และข้อผิดพลาดของคุณ
เหตุผลที่สำคัญ: บัญชีทดลองช่วยฝึกฝนวินัย และแสดงให้เห็นว่าคุณจะรับมือกับการขาดทุน และกำไรอย่างไรโดยไม่ต้องเสี่ยงกับการสูญเสียเงินจริง รวมถึง แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ของคุณทำงานได้ดีแค่ไหนในสภาวะที่ใกล้เคียงกับตลาดจริงมากที่สุด
ขั้นตอนที่ 5 พัฒนาระบบบริหารความเสี่ยง
แม้แต่กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดก็ไม่สามารถปกป้องคุณจากความสูญเสียครั้งใหญ่ได้หากปราศจากการบริหารความเสี่ยง:
- กำหนดวงเงินสำหรับการขาดทุนต่อการซื้อขายแต่ละครั้ง และต่อวัน อย่าเสี่ยงลงทุนด้วยเงินทุนจำนวนมากของคุณ นี่เป็นกฎพื้นฐาน
- อย่าเสี่ยงลงทุนด้วยเงินทุนของคุณเกิน 1-2% ในการซื้อขายครั้งเดียว ตัดสินใจโดยอิงจากแผนที่วางไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่จากอารมณ์
- ใช้คำสั่งหยุดขาดทุน และคำสั่งทำกำไร
- ควบคุมอารมณ์ของคุณ: ความกลัว ความโลภ และความปรารถนาที่จะ “เอาคืน” คือศัตรูที่อันตรายที่สุดของนักเทรด
เหตุผลที่สำคัญ: หากไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด การเปลี่ยนไปใช้บัญชีจริงก็ไม่มีประโยชน์ การควบคุมความเสี่ยงช่วยรักษาวงเงินทุน และช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้โดยปราศจากความเครียด
ขั้นตอนที่ 6 เปลี่ยนไปใช้บัญชีจริง
อย่าใช้เวลากับบัญชีทดลองมากเกินไป เพราะมักจะนำไปสู่ ”ความไม่ชัดเจน” และการขาดความจริงจังในตลาด
- หากเป็นไปได้ ให้เริ่มทำการซื้อขายจริงควบคู่ไปกับงานประจำของคุณ
- เริ่มจากปริมาณน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นทีละน้อย
- ค่อย ๆ เพิ่มขนาดของการซื้อขายเมื่อคุณมั่นใจในกลยุทธ์ของคุณแล้ว
เหตุผลที่สำคัญ: การค่อย ๆ สะสมเงินทุนจะช่วยให้คุณปรับตัวเข้ากับอารมณ์ที่แท้จริงได้ และลดโอกาสที่จะเกิดการขาดทุนจำนวนมาก เมื่อคุณสั่งสมประสบการณ์ ความมั่นใจ และผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอมากขึ้น คุณก็สามารถเริ่มคิดเรื่องการลาออกจากงานได้
ขั้นตอนที่ 6 พัฒนาความเข้มแข็งทางจิตใจ
ตลาดมีความไม่แน่นอน และการขาดทุนย่อมเกิดขึ้นได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองเสียสติเพราะความเครียด:
- อย่าตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นด้วยความกลัว หรือความโลภ
- จงอดทน: ไม่ใช่ทุกการซื้อขายจะทำกำไรได้เสมอไป
- วิเคราะห์อารมณ์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณ
เหตุผลที่สำคัญ: จิตวิทยาเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของนักเทรด หากขาดการควบคุมตนเอง กำไรก็จะกลายเป็นขาดทุน
ขั้นตอนที่ 7 สร้างรายได้ที่สม่ำเสมอจากกลยุทธ์ของคุณ
อย่าเพิ่งลาออกจากงานประจำทันทีเมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ดีจากบัญชีลูกค้าจริงของคุณ ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขาย ไม่ใช่โชคชั่วคราว
- ให้กลยุทธ์นี้พิสูจน์ตัวเองในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน (แนวโน้มขาขึ้น ทรงตัว การตื่นตระหนก)
- จงแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางจิตใจของคุณว่าคุณสามารถรับมือกับอารมณ์ต่าง ๆ ได้หลังจากช่วงเวลาที่พ่ายแพ้ติดต่อกัน
- ให้สถิติแสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ของคุณค่อย ๆ เพิ่มผลกำไรอย่างต่อเนื่องในแต่ละเดือน หรือแต่ละไตรมาส
- ควรเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนหรือ 3 ไตรมาสติดต่อกัน เพื่อสร้างความเสถียร
ทำไมสิ่งนี้จึงมีความสำคัญ? นักเทรดอาจจับกระแสได้ในช่วงเริ่มต้นของการซื้อขาย และเข้าใจผิดคิดว่ากลยุทธ์นั้นจะให้ผลกำไรเช่นนั้นเสมอไป แต่เนื่องจากสถานการณ์ตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ากลยุทธ์มีความมั่นคงในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน รวมถึง ภาวะตื่นตระหนก และเหตุสุดวิสัย
ขั้นตอนที่ 8 พิจารณาความเสี่ยงอย่างตรงไปตรงมา: อะไรบ้างที่อาจผิดพลาดได้
ในการซื้อขายหุ้น สิ่งสำคัญคือต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง:
- แม้แต่นักเทรดที่มีประสบการณ์ก็ยังประสบกับภาวะขาดทุนได้ ไม่ใช่ทุกการซื้อขายที่จะได้กำไร และการเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนั้นเป็นสิ่งสำคัญ จิตวิทยาและความสามารถในการฟื้นตัวจากความสูญเสียมักมีความสำคัญมากกว่ากลยุทธ์
- การซื้อขายต้องใช้ทรัพยากร ได้แก่ เวลา ความเอาใจใส่ และความมั่นคง หากสภาพจิตใจ สุขภาพ หรือภาระหน้าที่ของคุณไม่อำนวย ความเสี่ยงจะสูงเกินไป
- ความเสี่ยงของการ “หลอกตัวเอง”: เมื่อดูเหมือนว่ากลยุทธ์นั้นได้ผล แต่คุณควรคิดว่ามันเป็นเพียงแค่โชคดีเท่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องประเมินผลลัพธ์ สถิติ และข้อผิดพลาดอย่างเป็นกลาง
ขั้นตอนที่ 9 วางแผนการค่อย ๆ เปลี่ยนจากงานประจำที่ทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น
เมื่อคุณพร้อม และมั่นใจแล้ว:
- กำหนดวันที่คุณจะลาออกจากงาน แต่ไม่ต้องรีบร้อน
- เตรียมเงินสำรองไว้ใช้จ่ายในช่วงสองสามเดือนแรก (ขอแนะนำว่าควรสำรองไว้สำหรับ 6 เดือนขึ้นไป)
- ควรมีแผนสำรอง: จะทำอย่างไรหากรายได้ไม่แน่นอน (ควรเป็นการสร้างรายได้แบบให้เงินทำงานไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเปลี่ยนจากงานประจำไปเป็นการทำกำไรจากการซื้อขาย)
เหตุผลที่สำคัญ: การค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงอย่างราบรื่นจะช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาทางการเงิน และจิตใจ
ขั้นตอนที่ 10 การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาตนเองให้มีความหลากหลาย
การซื้อขายเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง แต่ก็อย่าเอาไข่ทั้งหมดใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว:
- ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ใช้ได้ผลในวันนี้อาจใช้ไม่ได้ผลในวันพรุ่งนี้ ด้วยเหตุนี้ การวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องจึงมีความสำคัญ ไม่เพียงแต่การวิเคราะห์ตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์ตนเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อผิดพลาด ทัศนคติ และวิธีการของคุณ นี่คือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดในระยะยาว ปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณทุกครั้งที่มีโอกาส
- กระจายแหล่งรายได้ของคุณ ถอนกำไรส่วนหนึ่งออกมาลงทุนในหุ้น กองทุน ETF หรืออสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างแหล่งรายได้เพิ่มเติม
- สำรวจโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ อย่าไปติดกับดักของการซื้อขายมากเกินไป โดยหลักการแล้ว ควรสร้างเงินทุนเริ่มต้นจากการซื้อขายหุ้น และนำไปลงทุนในด้านที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า
เหตุผลที่สำคัญ: ตลาดการเงินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และคุณจำเป็นต้องรักษา และพัฒนาทักษะของคุณอย่างต่อเนื่อง การกระจายการลงทุนช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการล่มสลายในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ “หงส์ดำ” หรือ black swan
เส้นทางนี้ไม่เหมาะสำหรับใครบ้าง?
- คุณไม่มี “ตาข่ายนิรภัย”
- คุณเป็นคนอารมณ์อ่อนไหว มักทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง และรับมือกับความเครียดได้ยาก
- ความมั่นคง ความมั่นใจ และความคาดเดาได้ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ
- คุณยังไม่พร้อมสำหรับการเรียนรู้ระยะยาว การควบคุมตนเอง หรือความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
บทสรุป
การเปลี่ยนจากงานประจำ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นมาเป็นนักเทรดนั้น คุณต้องเข้าใจอย่างชัดเจนว่าทำไมคุณถึงอยากลาออกจากงาน และคุณคาดหวังอะไรจากการเทรด เพราะหากปราศจากแรงจูงใจที่ชัดเจน คุณก็อาจหลงทางได้ง่าย ก่อนที่จะ “ก้าวไปข้างหน้า” อย่างเต็มตัว จงเตรียมตัวให้พร้อม: สะสมเงินทุน ฝึกฝน และสั่งสมประสบการณ์
จงมองการซื้อขายเป็นงานจริงจัง ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง หรือเพื่อการผจญภัย การซื้อขายหุ้นอาจเป็นทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากงานประจำแบบ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น แต่ก็ไม่ใช่เส้นทางที่ง่ายเลย สิ่งนี้ต้องอาศัยวินัย ความอดทน และวิธีการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องค่อยเป็นค่อยไป เรียนรู้ และควบคุมอารมณ์ของตนเอง หากคุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนที่อธิบายไว้ ความฝันที่จะมีอิสรภาพทางการเงินก็จะกลายเป็นความจริง